โดย MIU MIU ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นเมื่อปี 1932 โดยมิวเชีย พราด้า โดยเธอนำแรงบันดาลใจมาจากตู้เสื้อผ้าของเธอเอง หลังจากก่อตั้งมาได้ 30 ปี.

MIU MIU เป็นแบรนด์ลูกของ PRADA ที่ตั้งตามชื่อเล่นของคุณ Miuccia Prada คุณ Miuccia เป็นหลานคนเล็กของคุณ Mario Prada ผู้ก่อตั้ง PRADA และเธอยังเป็น CEO คนปัจจุบันของ เครือคล้ายธุรกิจแบรนด์หรูนี้อีกด้วย

เเละ ล่าสุด MIU MIU ก็มาแรงเซงโค้งขึ้นเป็นที่หนึ่งในฐานะแบรนด์สุดฮ็อต นำหน้า Loewe, Prada, Bottega Veneta  ต้องบอกว่าแนวทางอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนดซึ่งเน้นความขี้เล่นซุกซน ผสมผสานกับเสน่ห์แบบเฟมินีน และการเบลอเส้นแบ่งระหว่างความสวยและความหมิ่นเหม่จนกลายเป็นความเก๋นั้นโดนใจสาวๆ ทั่วโลก รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียและเหล่าอิทเกิร์ลทั้งหลายด้วย

เครดิตภาพ : vogueth

ซึ่งทำให้ ได้รับเลือกให้เป็น Brand of The Year ในปี 2022  MIU MIU  ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น โดยมียอดค้นหาในอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 49 เปอร์เซ็นต์ และล่าสุด ทาง Lyst Index เสิร์ชเอ็นจิ้นสินค้าแฟชั่นชื่อดัง  ได้เผยสถิติในช่วงไตรมาส 3 ออกมา โดยผลปรากฏว่า  MIU MIU ได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง  World’s Hottest Brand เป็นครั้งแรก อีกด้วย

ด้วยลุคที่ทำให้เป็นที่จับตามองอย่าง คอลเลกชันที่สร้างชื่อเสียงมากที่สุดคอลเลกชันหนึ่งก็คือ Spring/Summer 2022 หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Miu Miu Mini” ที่เน้นแฟชั่นย้อนยุคแนว Y2K แต่มีความทันสมัยมากขึ้น โดยมีกางเกงขาสั้นตัวจิ๋ว (ที่บางคนอาจมองว่าเหมือนกางเกงใน) แต่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษด้วยการปักเลื่อมสีทอง และนำเสนอด้วยการให้เหล่านางแบบสวมเสื้อคาร์ดิแกน เสื้อโค้ต หรือเสื้อตัวนอกขนาดใหญ่ แต่เน้นให้เห็นกางเกงขาสั้นหรือกระโปรงด้านในอย่างชัดเจน จนได้ความนิยมสุดขีดในเวลาต่อมา

เครดิตภาพ : miumiu 

Miu Miu ที่มีต่อแฟชั่นใน ปี 2023 ยังขยายไปถึงรองเท้าอีกด้วย ซึ่งรองเท้าที่ได้รับการพูดถึงในวงการแฟชั่นเป็นอย่างมากในปีที่ผ่านมาก็คือ รองเท้าส้นเตี้ยทรงบัลเลต์ของ Miu Miu ทำจากผ้าซาตินและมีแถบที่มีชื่อแบรนด์คาดตรงกลาง ในราคาคู่ละ 950 ดอลลาร์ หรือประมาณ 33,640 บาท จนทำให้มีสินค้าลอกเลียนแบบราคาถูกออกมาวางขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นจำนวนมาก

จากเเบรนด์ลูกอย่าง  Prada สู่เเบรนด์ที่ก้าวกระโดดได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยความคิดการออกเเบบของ  Miuccia Prada ที่มีความเเปลกใหม่

เเละเข้าถึงง่ายที่สุดในยุค ปัจจุบัน  กับ miu miu

เเหล่งอ้างอิง

: www.longtungirl.com

: lofficielthailand.com

: bangkokbiznews.com