Breguet (เบร-เกต์) แบรนด์นาฬิกาสวิส อายุ 247 ปี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ปี 1775
เป็นแบรนด์นาฬิการะดับ High-end ที่เก่าแก่แบรนด์หนึ่งของโลก ภาพลักษณ์ของ Breguet คือความ Contemporary Elegant หรือความสง่างามแบบร่วมสมัย
คือการผสมผสานเทคโนโลยีกลไกชั้นยอด เข้ากับความงดงามของเรือนนาฬิกา ที่อยู่เหนือกาลเวลา ความสง่างามร่วมสมัยที่ว่านี้ของ Breguet มีรายละเอียดอะไรน่าสนใจ
ไปดูกัน 

ต้องย้อนกลับไปสักนิดว่า จุดกำเนิดของ Breguet เกิดขึ้นในปี 1775 หรือเมื่อ 247 ปีที่แล้วโดย Breguet ถูกก่อตั้งขึ้นโดยชายที่ชื่อว่า Abraham-Louis Breguet ซึ่ง Abraham-Louis Breguet เป็นชาวเมือง Neuchâtel ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
แต่เดินทางไปใช้ชีวิตและทำงานเกี่ยวกับนาฬิกาในปารีส ตั้งแต่เด็ก ๆและพอมีประสบการณ์ในวงการนี้จนถึงขั้น เขาก็ทำแบรนด์นาฬิกาของตัวเอง แล้วตั้งชื่อว่า Breguet ตามชื่อตัวเอง

ความสำเร็จครั้งสำคัญที่ทำให้ Breguet เป็นที่รู้จัก และเป็นตำนานมาจนถึงทุกวันนี้
คือการที่ Breguet ขึ้นชื่อว่าเป็นคนคิดค้นและผลิตนาฬิกาไขลานอัตโนมัติ หรือ Self-winding Watch ที่ใช้งานได้จริง เป็นเรือนแรกของโลก ชื่อว่า “the Perpétuelle” ในปี 1780 อีกความสำเร็จในตำนาน คือการคิดค้นกลไก ที่ชื่อว่า “ตูร์บิญอง (Tourbillon)” ในปี 1801 กลไกที่ว่านี้ อธิบายง่าย ๆ คือ การเอาชิ้นส่วนของกลไกบอกเวลา ใส่เข้าไปในกรงหมุน ทำให้ช่วยลดความคลาดเคลื่อนของการบอกเวลา จากแรงโน้มถ่วง
Breguet จึงกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์นาฬิกา ที่บอกเวลาได้แม่นยำที่สุด ในตอนนั้น

ตูร์บิญอง กลายเป็นสุดยอดกลไก ที่ยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งในนาฬิกาของ Breguet และนาฬิกาแบรนด์หรูซีรีส์ระดับ Hi-end ของแบรนด์อื่น ๆและทำให้ในอดีตเรือนเวลาของ Breguet ถูกครอบครองโดยคนสำคัญในประวัติศาสตร์โลกมากมาย ที่ใช้นาฬิกา Breguet เป็นตัวแทนของความมั่งคั่ง และอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น นโปเลียน โบนาปาร์ต นักรบที่เก่งกาจในยุคปฏิวัติฝรั่งเศส หรือ วินสตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ที่มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มาจนถึงทุกวันนี้ ความโดดเด่นของ Breguet ก็ยังเป็นการนำเสนอเรือนเวลา ที่สะท้อนความสง่างามแบบร่วมสมัยทำให้นาฬิกาแต่ละซีรีส์ และแต่ละคอลเลกชันของ Breguet ดูทรงคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรืออยู่ในยุคสมัยไหนก็ตาม เช่น ตัวอย่างซีรีส์นาฬิกา ที่สื่อความสง่างามแบบร่วมสมัยของ Breguet ได้เป็นอย่างดี คือซีรีส์ที่ชื่อว่า “Classique” นาฬิกาซีรีส์นี้ โดดเด่นด้วยดิไซน์ที่เน้นความบางของตัวเรือน ความประณีตของกลไกที่ซับซ้อนสวยงาม และภาพลักษณ์ความเรียบหรู คลาสสิก สไตล์ Breguet ตัวอย่างคอลเลกชันน่าสนใจในซีรีส์นี้ก็คือ “Classique 7337 Calendar” ที่ตกแต่งด้วยหัตถศิลป์หลากหลายแบบตลอดทั่วทั้งเรือน โดยช่างฝีมือของ Breguet ตัวเรือนขนาด 39 มิลลิเมตร พร้อมฟังก์ชัน Moon Phase บอกข้างขึ้นข้างแรม ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา เพิ่มความหรูหรา กลไกบอกเวลาเป็น คาลิเบอร์ 502 ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกเบรเกต์ ที่มีขนาดบางที่สุด บางเพียง 2.4 มิลลิเมตร กลไกขึ้นลานอัตโนมัติโรเดียมเพลต ประกอบด้วยชิ้นส่วน 236 ชิ้น พร้อมด้วยซิลิคอน บาลานซ์สปริง ทำงานที่ความถี่ 3 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้ 45 ชั่วโมง ซึ่งซิลิคอนเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน และยังป้องกันผลกระทบจากสนามแม่เหล็ก ทำให้นาฬิกามีความเที่ยงตรงระดับสูง ชิ้นส่วนอื่น ๆ ตกแต่งด้วยเทคนิค Chamfering หรือศิลปะการตะไบด้วยมือให้เกิดเหลี่ยมมุม คอลเลกชัน Classique 7337 Calendar เวอร์ชันปี 2022 นี้
มาในตัวเรือนโรสโกลด์ และไวต์โกลด์ 18 กะรัต ตัวเรือนไวต์โกลด์มาพร้อมสายสีมิดไนต์บลู ส่วนตัวเรือนไวต์โกลด์มาพร้อมสายสีน้ำตาล ที่ต้องบอกว่า เรียบหรูและคลาสสิก สไตล์ Breguet อย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้ คือเรื่องราวของ Breguet แบรนด์นาฬิกา 247 ปีที่สะท้อนเอกลักษณ์ความสง่างาม คลาสสิก และทรงคุณค่า มาทุกยุคทุกสมัย
ในแบบฉบับ Breguet ที่ไม่มีใครเหมือน

อ้างอิง : https://www.longtunman.com/42900