จากห้องเสื้อ HAUTE COUTURE สู่ เเบรนด์ ชั้นนำสุดเก๋
15 Sep, 2024 / By
Sloanetimecollection
ถ้าพูดถึงเเบรนด์ที่เเตกต่าง เก๋ ไม่เหมือน ใคร เพื่อนๆ จะนึกถึงเเบรนด์ อะไรกัน กับเเบรนด์ บาเลนเซก้า เลยจ้า ที่มีการดีไซส์ที่เเปลก เเละเเหวกเเนวไม่เหมือนใคร หรือในบาง collection เป็นการล้อเลียนเเบรนด์ต่างๆ ด้วยซ้ำ เเต่ทำไม เเบรนด์ที่ เก๋ขนาดนี้ ถึงได้มีกระเเสมากมาย ขนาดนั้นวันนี้ time จะพามาทำความรู้จักกับเเบรนด์ บาเลนเซก้ากันเลย
ย้อนไปใน ในศตวรรษที่ 20
คริสโตบัล บาเลนเซียก้า นักออกแบบชาวเมืองบาสก์ สัญชาติสเปน เริ่มต้นจากเป็นผู้ช่วยฝึกหัดของร้านตัดเสื้อ หลังจากนั้น ก็เปิดร้านของตัวเองชื่อ Balenciaga ปี ค.ศ. 1919 และสาขาที่สองในปี ค.ศ. 1931 แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกินในสเปนตอนนั้นย่ำแย่ เขาจึงตัดสินใจปิดร้านทั้งหมดแล้วมุ่งหน้าสู่มหานครปารีส และเปิดร้านเสื้อผ้าของตัวเองอีกครั้งในปี ค.ศ. 1937 ณ ใจกลางถนนฌอร์ฌ-แซงก์ กรุงปารีส
เขาได้เริ่มเส้นทางนักออกแบบ โดยมีโอกาสได้ไปเรียนรู้งานแฟชั่นและการตัดเย็บกับ มาร์เกซ่า เด กาซ่า ตอเรซ (Marquesa de Casa Torres) สตรีชั้นสูง ผู้เป็นลูกค้าประจำของตระกูลบาเลนเซียก้าเป็นผู้ให้คำ นอกจากนั้น เขายังได้เข้าไปเป็นผู้ช่วยฝึกหัดในร้านตัดเสื้อย่าน San Sebastián ซึ่งเป็นย่านที่พักตากอากาศที่มีชื่อเสียงเต็มไปด้วยเหล่าคนชนชั้นสูง ของสเปนมาท่องเที่ยว และยังมีร้านเสื้อผ้าที่ทันสมัยมากมายให้เขาได้ศึกษาเรียนรู้ ต่อมาใน ปี 1917 เขาได้เปิดร้านบูติกเป็นของตัวเองแห่งแรก โดยใช้ชื่อว่า Balenciaga ในย่าน ซาน เซบาสเตียน (San Sebastián) และขยายเพิ่มไปอีก 2 สาขา ในกรุงมาดริด และบาร์เซโลนา ในปี 1931 แต่ด้วยสภาพสังคมของประเทศสเปนในขณะนั้นไม่ค่อยดีนัก เกิดภาวะสงครามกลางเมือง ทำให้เขาต้องปิดทั้ง 3 สาขาลงอย่างเสียไม่ได้ และย้ายถิ่นฐานมายังประเทศฝรั่งเศส เขาเปิดร้านบูติกใหม่อีกครั้ง ในปี 1937 ในนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางถนน ฌอร์ฌ-แซงก์ (Avenue George V) ความโดดเด่นของเขา คือ สไตล์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผลงานศิลปะแบบ Abstract วัฒนธรรมการเเต่งกายของ ชาวสเปนในอดีต ทำให้เขาผลิตเสื้อผ้าที่มีลักษณะเหมือนงานประติมากรรม มีรูปทรงแปลกตาอย่างน่ามหัศจรรย์
อีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่เขาใช้ในงานออกแบบ มาจากนักบุญของศาสนาคริสต์ และเหล่าเซนต์หรือทวยเทพ เพราะส่วนตัวของ Balenciaga เป็นชาวคริสต์คาทอลิก ที่เคร่งครัดศาสนาเป็นอย่างมาก และยังมีบันทึกว่าเขามักจะแวะไปสวดมนต์ที่โบสต์ถึง 2 ครั้งต่อวันอยู่เสมอ โดยรูปทรงการออกแบบที่ทำให้เขาโด่งดัง คือ รูปทรงเสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ซับซ้อน แต่เมื่อมองตาเปล่ากลับให้ความรู้สึกเรียบง่าย ใส่สบาย ไม่เทอะทะ แถมยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย
หนึ่งในผลงานที่โดดเด่น คือ งานดีไซน์ชุดกระโปรงผ้าไหมกาซาร์ ที่ทำให้หลายคนต้องตะลึงกับผ้าคลุมไหล่ที่สามารถปรับขึ้นลงได้ โดยผลงานของ Balenciaga ชิ้นนี้ มีการออกแบบที่เริ่มจากการเลือกผ้าที่จะให้ตัดมาดีไซน์ ให้ได้รูปทรงที่เข้ากับชิ้นผ้า มากกว่าการออกแบบชุดแล้วค่อยหาผ้ามาตัดเย็บ ในส่วนนี้ทำให้ชุดที่เขาดีไซน์มีรูปทรงที่แปลกตาราวกับงานประติมากรรม
นอกเหนือจากชื่อเสียงด้านการออกแบบเสื้อผ้าแล้ว ตัวของ Balenciaga ก็มีชื่อเสียงในเรื่องการไม่ชอบเข้าสังคมเช่นกัน จนถึขั้นมีข่าวลือว่าเขาไม่มีตัวตนอยู่จริง เพราะเขาไม่เคยปรากฏตัวในตอนจบของแฟชั่นโชว์ ไม่เคยพบปะลูกค้า แม้กระทั่งตอนที่ลูกค้ามาลองเสื้อที่ร้าน ต่างจากนักออกแบบโอตกูตูร์คนอื่นๆ ที่มักปรากฏตัวให้สื่อได้เห็นอย่าง คริสเตียน ดิออร์ หรือ โคโค่ ชาแนล Balenciaga เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อเพียงครั้งเดียว และเขายังเคยแบนไม่ให้สื่อได้เห็น หรือถ่ายรูปสินค้าจนกว่าลูกค้าจะเห็นก่อนเป็นเวลาถึงหนึ่งเดือน นอกจากนี้ เขายังเล่าเปิดใจกับ กุสตาฟ ซุมสเตก (Gustav Zumsteg) เจ้าของผลิตภัณฑ์ผ้าไหม Abraham จากสวิสเซอร์แลนด์ ไว้ว่า “อย่าเสียเวลากับเรื่องเข้าสังคม” โดยเขาหมายถึง การไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องซุบซิบ ไร้สาระของวงการแฟชั่น ให้หันมาสนใจ และพัฒนาผลงานการดีไซน์ของตนเองดีกว่า การกลับมาของกระเเส ในปี 2012 ได้นักออกแบบชาวอเมริกัน Alexander Wang (อเล็กซานเดอร์ แวง) มาเป็นผู้อำนวยการสร้าง แต่ด้วยการออกแบบที่จำเจของเขา ทำให้ในปี 2015 ต้องลงจากตำแหน่ง และได้นักออกแบบชาวจอร์เจีย อย่าง Demna Gvasalia (เด็มนา กวาซาเลีย) มารับช่วงต่อเป็นผู้อำนวยการสร้างของแบรนด์ Balenciaga
ในปี 2016 เขาได้นำเสนอแฟชั่นโชว์ที่มีผู้ชายบนรันเวย์ของแบรนด์เป็นครั้งแรกในคอลเลคชั่น Spring Summer 2017 และในปีต่อมาก็ได้เปิดสาขาใหม่ในปารีส บนถนน Avenue Montaigne (อเวนิว มองเเตเนอ) แรงบันดาลใจในการออกแบบของ Demna Gvasalia มาจากความชอบในเสื้อผ้าแนวสตรีท เอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นเสื้อผ้าสไตล์ไหล่กว้าง ช่วยให้เห็นรูปร่างของผู้หญิงมากขึ้น ในปัจจุบันแบรนด์ Balenciaga เป็นแบรนด์ที่มีการออกแบบคอลเลคชั่นที่ยังคงมีความแปลกตา แต่ผสมกลิ่นอายเเนวสตรีท สินค้าของแบรนด์มีหลากหลายสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค อาทิ เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แอคเซนซอรี่ เเละยังคงเป็นแบรนด์ที่เหล่าดาราเซเลป ต่างต้องมีไว้ในครองครอบ อย่าง นักแสดงสาว ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ กับ กระเป๋า Hourglass xs top handle เสื้อสเวตเตอร์ Allover logo crewneck หรือไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นไอคอนตัวแม่อย่างสาว ชมพู่ อารยา ที่ได้เลือกหยิบแฟชั่นรองเท้าบูทสุดแปลกตามาสวมใส่ สร้างความฮือฮาบนโลกโซเชียลอยู่บ่อยๆ
หากย้อนมอง ประวัติแบรนด์ Balenciaga อย่างละเอียดจะพบว่า Balenciaga เป็นแบรนด์ที่ไม่ยอมตาย มีจุดน่าสนใจและข้อแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ อยู่เยอะ เนื่องจากตัวแบรนด์มีการปรับ DNA จากโอต์กูตูร์มาเป็นแบรนด์หรูกึ่งสตรีทที่ทันสมัย จนทำให้เหล่าผู้ซื้อหันมาสนใจแบรนด์มากขึ้น เจาะกลุ่มลูกค้าในช่วงอายุ 20-38 หรือกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งอยู่ในช่วงวัยทำงานและมีกำลังซื้อ ทำให้แบรนด์ สามารถโตบโตจนกลายเป็นแบรนด์ Luxury ที่อยู่ในใจหลายๆ คนได้อย่างไม่ยากนัก
เเหล่งอ้างอิง
: https://style.katexoxo.com/
: https://salehere.co.th/